วันพุธที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2556

วิธีเปลี่ยน SID ของ Computer ที่เป็น Windows7 และ Windows Server 2008

Tagged:

clip_image002.jpg

Published on October 16, 2012 with No Comments

วิธีเปลี่ยน SID ของ Computer ที่เป็น Windows7 และ Windows Server 2008
· เครื่องที่มี SID เดียวกันเกิดจากการ Clone มาใช้งาน
· SID เดียวกัน หรือ SID ชนกัน จะมีผลหากเอามาใช้เชื่อมต่อกันในระบบ Network หรือ Active Directory
· เราไม่ควรใช้งานเครื่องที่ได้จากการ Clone โดยที่มี SID เดียวกัน
สมัยก่อนหากใช้เครื่องมือ NEWSID.exe จะช่วยให้การสร้าง SID ของเครื่องใหม่เป็นได้รวดเร็วกว่า Sysprep ครับ
clip image002 thumb6 วิธีเปลี่ยน SID ของ Computer ที่เป็น Windows7 และ Windows Server 2008
แต่ Windows7 และ Windows Server 2008 ไม่รองรับเครื่องนี้ newsid.exe แล้วนะครับ ถ้าเอาไป run จะทำให้เครื่องเกิด BSOD ได้
ดังนั้นเครื่อง Windows7 และ Windows Server 2008 สามารถทำการสร้าง SID ใหม่ได้โดยการใช้ Sysprep เท่านั้นครับ
เครื่องมือ SYSPREP มีมาพร้อมกับระบบอยู่แล้ว
วิธีการ Reset SID ด้วย Sysprep
1. พิมพ์ Sysprep ที่ RUN จะมี Folder Sysprep โผล่ขึ้นมา ถ้ายังหาไม่เจอให้เข้าไปเองได้ที่ c:\Windows\System32.
2. ทำการ Double Click Sysprep.exe
3. หลังจากโปรแกรม Sysprep โผล่ขึ้นมา ให้เลือก Enter System Out-of-Box Experience (OOBE) และเลือก Generalize จากนั้นเลือก Reboot ด้วยครับ ระบบจะ Reboot แล้วกลับมาสู่หน้าจอให้เลือก Accept License Agreement อีกทีนึงครับ
clip image003 thumb4 วิธีเปลี่ยน SID ของ Computer ที่เป็น Windows7 และ Windows Server 2008
clip image004 thumb1 วิธีเปลี่ยน SID ของ Computer ที่เป็น Windows7 และ Windows Server 2008
clip image005 thumb1 วิธีเปลี่ยน SID ของ Computer ที่เป็น Windows7 และ Windows Server 2008

ที่มา :www.mvpskill.com

วันพฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2556

แชร์เครื่องพิมพ์ จาก Windows XP ให้กับ Windows 7 ไม่ได้

เมื่อวันก่อนนี้ เจอปัญหาว่า มีเครื่องที่เราทำการแชร์เครื่องพิมพ์ไว้ เป็น PC  ติดตั้ง Windows XP
และหน่วยงานต้องการแชร์เครื่องพิมพ์ให้กับ Notebook  ที่ติดตั้ง Windows 7  ไว้  เมื่อทำการ
แชร์จากเครื่อง PC เมื่อ Connect  จาก Notebook ที่ใช้ Windows 7 ไม่สามารถทำได้ จึง
รู้สึกว่าต้องมีปัญหาในทางเทคนิค ได้ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมใน Google และได้พบ บทความของ
ต่างประเทศ เมื่อได้ลองเอาไปทำดู ผลปรากฏว่า สามารถเชื่อมต่อได้ จึงได้เอาใส่ไว้ใน เว็บนี้
ลองทำตามขั้นตอน ดังนี้นะครับ
1. ตรวจสอบสถานะเครื่องพิมพ์ที่เครื่อง Windows XP ว่า เราได้ทำการแชร์เครื่องพิมพ์แล้ว
2. คลิกขวาเมส์ และเลือกคำสั่ง Sharing
3. ตรวจสอบชื่อเครื่องพิมพ์ และสถานะของเครื่องพิมพ์ว่า ถูกต้องหรือไม่  (ชื่อ ต้องน้อยกว่า 8 ตัวอักษร)
4. ตรวจสอบชื่อเครื่องคอมพิวเตอร์  โดยคลิกปุ่มเมาส์ด้านขวา ที่ My Computer
    และเลือก  Propereties  และ เลือกแท็บ Computer Name จะได้ชื่อคอมพิวเตอร์
5. คลิกเมนู  Start  และ เลือก  Run  ให้พิมพ์
     \\ชื่อเครื่องคอมพิวเตอร์  หรือ หมายเลข IP ของ เครื่องที่แชร์เครื่องพิมพ์  และกด Enter   เช่น
     \\trufaster      หรือ \\192.168.5.xx    และ กด Enter
6. ถ้าทุกอย่าง OK  Windows 7 ควรที่จะเชื่อมต่อเครื่องพิมพ์ได้  แต่ถ้าไม่ได้ ให้ทำตาม
     ขั้นตอน ดังนี้
7. คลิก ที่ปุ่ม  Start  และเลือก แท็บ  Device  and Printer

8. ให้คลิกปุ่ม  Add a printer  ด้านบน   ตามภาพ

9. เลือก  Add a local  printer   ตามภาพ
10. ต่อไปให้คลิก Create  a  new  port  และเลือก  Local  port  จากรายการ  และเลือก Next

11. เมื่อคลิก Next  จะได้ หน้าต่างใหม่ 1 อัน  ให้พิมพ์  ชื่อ เครื่องคอมพิวเตอร์ และชื่อเครื่องพิมพ์
      ที่แชร์ไว่้ และคลิกปุ่ม  OK

12. เครื่องคอมพิวเตอรืจะทำการ ค้นหา Driver ของเครื่องพิมพ์ให้ 

13. ถ้ามีไฟล์  Driver  อยู่ที่รองรับ Windows 7 ก็ให้กดปุ่ม  Have Disk  และเข้าไปที่
      folder  ที่เก็บไฟล์ไว้ ได้เลย แต่ถ้าไม่มีต้องเข้าไป Download ที่เว็บไซต์ของแต่ละ
     ผลิตภัณฑ์  เอาเองนะครับ 
สามารถเข้าไปดู เนื้อหาต้นฉบับ ที่ เว็บที่ผมหามาได้ แต่เป็นของฝรั่งนะ  ตามลิงค์ด้านล่าง
http://www.howtogeek.com/howto/windows-7/share-files-and-printers-between-windows-7-and-xp/

วันศุกร์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2556

วิธีแก้ปัญหา svchost.exe ใช้งาน CPU 100% (ที่ไม่ใช่ไวรัส)







หลายคนคงเคยเห็นปัญหา svchost.exe ใช้งาน CPU 100% บ่อยๆ โดยที่เราก็ไม่รู้สาเหตุ scan ไวรัสก็แล้วมันก็ไม่หาย และก็คงยังสงสัยกันอยู่ว่า ตกลงไอ้เจ้า svchost.exe มันเป็นไวรัสหรือเปล่า ซึ่งถ้าถามผมก็ต้องตอบว่า เป็นและไม่เป็น 

“svchost.exe” หรือชื่อเต็มๆของมันคือ “Generic Host Process for Win32 Services” ซึ่งเป็นส่วนของ System process อีกตัวหนึ่ง ในระบบปฏิบัติการ Windows เมื่อมันถูกสั่งให้รันหรือทำงานโดย Windows ผู้ใช้งานไม่สามารถทำการหยุด, terminate,end process หรือ restart ได้ แต่ถ้าเราเผลอไป end proces ก็จะทำให้เครื่องของเราทำงานผิดพลาดได้ โดยเฉพาะในเรื่องของ Network

ตำแหน่งที่อยู่ของ svchost.exe จะอยู่ที่ “%windir%\System32" หรือทั่วๆไป ก็คือ “C:\Windows\System32" หาก ไม่อยู่ในตำแหน่งดังกล่าว สรุปได้เลยว่าเป็นไวรัส ซึ่งมีไวรัสหลายตัวพยายามสร้างชื่อ process เลียนแบบ svchost.exe เช่น W32.Welchia.Worm ,W32.Assarm@mm ,W32/Jeefo ,SCVHOST.exe (Gaobot viruses), Svch0st.exe (Backdoor.Graybird viruses), Svchos1.exe (W32.HLLW.Gaobot.DK virus), Svchost32.exe (Backdoor.IRC.Zcrew), W32.HLLW.Deborms.C, W32.Mimail.J@mm,  W32.Paylap.@mm,  Svhost.exe (Backdoor.Socksbot, Bat.Boohoo.Worm, W32.Bolgi.Worm)  Tongue

จะ เห็นว่ามีไวรัสหลายตัวพยายามจะสร้าง process หลอกลวงขึ้นมา แต่ในเบื้องต้นเราสามารถสังเกตเห็นได้ง่ายๆ จากชื่อ Process ใน Task Manager (ถ้ายังเปิดได้) เช่น
- SCVHOST.exe
- Svch0st.exe
- Svchos1.exe
- Svchost32.exe
- Svhost.exe

Process เหล่านี้ถ้าเราสังเกตให้ดี ก็จะรู้ได้ไม่ยากครับว่ามันคือไวรัสเพราะชื่อมันยังไงก็ไม่เหมือน svchost.exe ส่วนวิธีกำจัดไวรัสจำพวกนี้มันก็ต้องแล้วแต่กรณีครับ


สาเหตุที่ svchost.exe (ไม่ใช่ไวรัส) ใช้งาน CPU 100% เกิดขึ้นเมื่อ Windows XP มีการสั่ง Automatic Update (โดยเครื่องนั้นต้อง turn on Automatic Update เอาไว้ด้วย)












วิธีแก้ปัญหาขั้นที่ 1

อย่าง ง่ายที่สุดก็คือ Turn off Automatic Update อันนี้แก้ที่ต้นเเหตุครับ โดยคลิกขวาที่ My Computer > Properties > เลือกแท็บ Automatic Updates > จากนั้นเลือกที่ Turn off Automatic Updates > Apply > OK เท่านี้ก็เรียบร้อยแล้วครับ

แต่ถ้าใครที่เจอปัญหานี้เข้าแล้ว และไม่สามารถแก้ได้ตามวิธีข้างต้น สามารถทำได้ดังวิธีต่อไปนี้นะครับ



วิธีแก้ปัญหาขั้นที่ 2(ใช้เมื่อทำขั้นแรกแล้วไม่หาย)
1 โฆลดเครื่องมือจากที่นี่ http://www.mediafire.com/?comwzati2gn
2. แตกไฟล์ไว้ที่ desktop ครับ จะเห็นปรากฎ 3 ไฟล์ตามในรูป




3. boot เครื่องใหม่เพื่อเข้า safe mode (ต้องล็อกอินในฐานะ Admintrator ด้วยนะครับ)
4. ดับเบิ้ลคลิกไฟล์ตามลำดับ 1 ,2 และ 3 (ทำเช่นเดียวกับการลงโปรแกรม)
5. restart เข้าสู่ mode ปกติครับ

โชคดีครับ

ที่มา :http://www.oknation.net

วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

Seagate Barracuda 3TB


Seagate Barracuda 3TB 

                  สวัสดีชาวโอเวอร์คล๊อกโซนครับ นับตั้งแต่ช่วงต้นปีนี้ การริวิวในส่วนของ Storage นั้นจะมีแต่พวก Flash Memory หรือ SSD กันเป็นส่วนมาก โดยส่วนตัวผมแล้วบางทีนั่งเทส SSD เยอะๆมันก็เริ่มเอียนๆกันไปบ้างครับ แต่สำหรับวันนี้ผมได้นำฮาร์ดดิสก์แบบจานแม่เหล็กหมุนจากทาง Seagate กับในรุ่น Barracuda ความจุ 3TB ที่จัดอยู่ใน บาราคูดาตระกูล 7200.14 ซึ่งจะมีอินเตอร์เฟสการเชื่อมต่อ SATA III 6GB/s ที่มีความเร็วในการหมุนจานแม่เหล็ก 7200 รอบต่อนาที ขนาด 3.5 นิ้ว โดยทาง Seagate นั้นได้พัฒนาเทคโนโลยีจานแม่เหล็กให้อยู่ได้สูงสุด 1 TB ต่อจานแม่เหล็กหนึ่งแผ่น ซึ่งก็จะช่วยทำให้ประสิทธิภาพของการทำงานนั้นสามารถได้รวดเร็วมากขึ้น ,ความร้อนน้อยลง และหัวอ่านนั้นจำเป็นเคลื่อนที่กว้าง โดยบาราคูดาตระกูล 7200.14 ยังใช้ Controller แบบ Dual Core 40nm พร้อมกับแคชแบบ DDR2 สำหรับในโมเดลความจุ 3TB จะมีการพกพาแคช 64MB ที่มีเทคโนโลยี Seagate OptiCache ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้เป็นอย่างดี แล้วที่สำคัญทาง Seagate ยังออกแบบ Barracuda 3TB เน้นถึงเรื่องประประหยัดพลังงาน ถ้าเทียบความจุต่อ 1TB Barracuda ถึงว่าไม่ได้ใช้พลังงานมากครับ เพราะว่าทั้งลูกนั้นมีความต้องการพลังงานสูงสุดโดยเฉลี่ยที่ 8 วัตต์



ตัวฮาร์ดดิสก์ที่ผมได้รับมานั้นเป็นแบบซอง ไม่ได้เป็นแบบกล่องขายปลีกแบบในหลายๆประเทศ ซึ่งใน Burracuda 3TB นั้นจำเป็นต้องใช้ Software จัดการเผื่อให้สามารถใช้พื้นที่ได้เต็ม 3TB และสำหรับผู้ที่ใช้งาน Windows XP และเมนบอร์ดที่ยังไม่ได้เป็นไบออส UEFI ให้สามารถมองเห็นและติดตั้งระบบปฏิบัติการได้ ส่วนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้เมนบอร์ดใหม่ๆเป็นไบออส UEFI ก็ไม่ต้องเป็นห่วงมาก ลง OS เสร็จแล้วค่อยโหลดมาลงทีหลังก็ไม่ใช่ปัญหา ซึ่งเป็นกล่องแบบขายปลีกจะมี Software จัดการมาให้ในชุด


HDD Detail
ภายนอกนั้นก็ดูเหมือนฮาร์ดดิสก์ปกติขนาด 3.5 นิ้ว แหละครับ ที่ฝาครอบเป็นเหล็กชุบและโครงสร้างสีดำนั้นทำมาจากเหล็กหล่อ ความหนาที่ 2.61 ซม นั้นดูแล้วไม่ต่างจากฮาร์ดดิสก์ขนาด 2TB หรือ 1TB สมัยก่อนเลยก็ว่าได้ครับ

แผงวงจรควบคุมการทำงานนั้นจะเป็นแบบคว่ำชิพเข้าข้างใน

ดูจากฉลากแล้วก็จะเห็นได้ชัดเจนว่ามันถูกผลิตในประเทศไทย

อินเตอร์เฟสการเชื่อมต่อ SATA มาตรฐานแบบเดียวกับฮาร์ดดิสก์ขนาด 2.5 และ 3.5 นิ้ว

Go beyond 2TB with DiscWizard software

จะเรียกว่าปัญหาก็ไม่ถูก แต่เรียกว่าเป็นข้อจำกัดของยุค Hardware ละกัน ที่ฮาร์ดดิสก์ความจุ 3TB จะเห็นได้สูงสุดเพียง 2.1 TB ซึ่งทาง Seagate ก็มี DiskWizard มาให้ลูกค้า Seagate ได้ไว้ใช้จัดการ ซึ่งถ้าเป็นไบออส UEFI ก็ลง Windows 7 แล้วถึงค่อยจัดการ แต่ถ้าเป็นการลง Windows XP และเมนบอร์ดเก่าๆที่ไบออสยังไม่ใช่ UEFI ก็ต้องจัดการกันก่อนลง OS ระบบถึงจะสามารถมองเห็นได้ ซึ่งผมจะไม่ขอพูดถึงละกันครับ

Seagate DiskWizard ที่มีฟีเจอร์การใช้งานมากมาย ทั้งการสำรองข้อมูล ,การกู้ข้อมูล ,การโคลน และการจัดการฮาร์ดดิสก์ความจุ 3TB ขึ้นไป ซึ่งในอนาคต Seagate ก็จะออก 6TB มาอย่างแน่นอน โดยขึ้นตอนการจัดการนั้นก็ไม่ยากเท่าไร ถ้าดูตามภาพนั้นไม่เข้าใจกันก็สามารถเปิดชมวีดีโอขั้นตอนการทำจากทาง Seagate ได้ครับ สามารถเปิดดูได้ถ้าสนใจจาก ที่นี่







ส่วนที่เกินจาก 2.1TB จะเป็นการจำลองพื้นที่อีกประมาณ 746 GB แยกออกมาเหมือนฮาร์ดดิสก์อีกลูกนึง


Seagate Barracuda 3TB Infomation

HD Tune

AIDA64

Capacity On OS

Desktop Setup

Test Setup
System
Mainboard
ASUS CrossHair V Formula
CPU
AMD FX 8-Cores
CPU Cooler
Thermalright Ultra 120 Rev.C
Memory
ADATA XPG 2000G Gaming V2 4GB Kits
Graphics Card
ASUS EAH6950 Unlock to EAH6970 Top
Solid State Drive
Seagate Barracuda 3TB 
Optical Drive
Pioneer S18L
Power Supply
Thermaltake ToughPower XT 875watt

Software
Mainboard Bios
1102
Chipset Driver
AMD Catalyst 12.7 Hotfix
Graphics Driver
AMD Catalyst 12.7 Hotfix 
OS
Windows 7 Ultimate Edition x64 SP1

ระบบที่ใช้ในการทดสอบ

บรรยากาศขณะการทดสอบ 


BenchMark Result

                  การทดสอบ Seagate Barracuda 3TB ในวันนี้ใช้รูปแบบการทดสอบเช่นเดียวกับการทดสอบ SSD ที่ผมทำมาตลอดครับ โดยยังคงใช้เมนบอร์ดชิพเซ็ต AMD 990FX+SB950 ที่เป็น SATA III 6GB/s มาตั้งแต่เกิด โดยระบบทุกอย่างยงคงเหมือนเดิมครับ

Microsoft Windows 7 Performance Rate

PCMark 7

PCMark Vantage X64

PCMark 2005

AIDA64 Disk Benchmark







Non Partitions Test 

HD Tach 3.0.4.0

Quick Bench

Long Bench

Non Partitions Test
Quick Bench
Long Bench

HD Tune Pro 5

Benchmark

Benchmark (Non Partitions Test )
Read
Write

Random Access

Random Access (Non Partitions Test )
Read
Write

Extra tests

Extra tests (Non Partitions Test )
Read
Write

File Benchmark
1MB
16MB

64MB
128MB

256MB
512MB

AS SSD Benchmark

Benchmark (MB/s)

Benchmark (IOPS)

Copy Benchmark

BenchMark Result

CrystalDiskMark 3.0.1
50MB
100MB

500MB
1000MB

2000MB
4000MB

ATTO Disk Benchmark
64MB
128MB

256MB
512MB

1024MB
2048MB

Anvil's Storage Utilities

Argus Monitor

SiSoftware Sandra






Non Partitions Test 

Diskmark




Conclusion !

             บทสรุปของ Seagate Barracuda 3TB ถ้ามองในแง่มุมของความเป็นฮาร์ดดิสก์จานแม่เหล็กหมุนนั้นก็นับได้ว่ามันมีประสิทธิภาพความแรง ที่สามารถตอบสนองการใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ทุกรูปแบบ รวมไปถึงการใช้งานรูปแบบการจัดเก็บข้อมูลภาพนอก ซึ่งถ้าเทียบกับฮาร์ดดิสก์ความจุระดับ 1TB + นั้นก็ถือว่า 7200.14 3TB มีประสิทธิภาพที่ดูเร้าใจมาก เทียบกับฮาร์ดดิสก์ที่ผมเคยใช้ๆงานมา มองถึงในเรื่องของความเร็วในการเข้าถึงข้อมูล(ถ้าจะเอาไปเทียบกับ SSD คงสู้ไม่ได้) อาจดูช้าไปบ้างแต่ถ้ามองถึงว่ามันมีความจุ 3TB ก็นับว่าทำไม่ได้เลวร้ายอะไรแล้วยิ่งประสิทธิภาพโดยรวมที่ออกมานั้นก็ทำให้ลืมๆไม่สนใจไปได้บ้างพอสมควร ในเรื่องการใช้งานเสียงรบกวนขณะการทำงานหนักๆอย่างต่อเนื่องนั้นเท่าที่ผมลองๆฟังดูถือว่าเงียบดี และความร้อนนั้นก็อยู่ช่วงที่ประมาณไม่เกิน 46 องศา ถึงแม้จะทำงานหนักและต่อเนื่องยาว ถ้าเอาไปใช้งานในเคสที่มีการระบายความร้อนก็เย็นกว่านี้แน่นอนครับ ความน่าสนใจในตัว Seagate Barracuda 3TB คงต้องเป็นทางด้านความจุ 3TB ที่ประสิทธิภาพนับว่าแรงมากสำหรับความเป็นฮาร์ดดิสก์จานแม่เหล็กหมุนอินเตอร์เฟส SATA III 6GB/s ครับ
                 วันนี้ผมขอจบ เพียงเท่านี้นะครับ ถ้าขาด ตกบกพร่อง ในจุดใดก็ขออภัยด้วย ไว้เจอกันใหม่โอกาสหน้า สวัสดี............ _/|\_ 

Seagate Barracuda 3TB
Special Thanks : Seagate Technology LLC

ที่มา: http://www.overclockzone.com