วันอังคารที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2557

Backup รายชื่ออีเมลที่เคยส่งไป


 
 Backup รายชื่ออีเมลที่เคยส่งไป  เป็นอีกจุดหนึ่งที่มักจะลืมและถูกผู้ใช้งานร้องถามหารายชื่ออีเมลที่ตนเองเคยส่งไป แต่มันหายไปหมดแล้วเพราะลืมแบ็คอัพไว้

               
ต่อจากบทความที่แล้วเรื่องของการแบ็คอัพยังไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะยังมีอีกจุดหนึ่งที่มักจะลืมได้ง่ายและลืมบ่อย ๆ ก็คือ รายชื่ออีเมลที่ผู้ใช้งานเคยส่งออกไป แต่ไม่ได้บันทึกเก็บไว้ใน Contacts Mail ตรงหากไม่ได้แบ็คไว้ก็จะหายไปทันที และจะก็อปปี้รายชื่อจากผู้ใช้งานคนอื่น ๆ ก็ไม่ค่อยจะได้เพราะรายชื่อแต่ละคนที่ส่งออกไปไม่เหมือนกันทุกคน ใครติดต่องานกับบุคคลภายนอกเยอะก็จะมีอีเมลที่แปลก ๆ มากมาย ยิ่งถ้าเป็นอีเมลระดับหัวหน้าหรือผู้บริหารแล้วละก็ รายชื่ออีเมลสำคัญหายนี่เป็นเรื่องแน่ เจ้าตัวไม่อยากจะไปค้นหาหรือพิมพ์ทั้งหมดแน่ๆ
มาดูวิธีการและขั้นตอนแบ็คอัพครับ

1. โดยปกติ หากเป็นรายชื่ออีเมลที่เคยส่งออกไป พอพิมพ์ตัวอักษรตัวแรก ก็จะโผล่รายชื่อมาให้เห็น โดยที่เราไม่ต้องพิมพ์ใหม่ทั้งหมด แค่คลิกเลือก ทำให้สะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องจำชื่อีเมล แต่มีสิ่งหนึ่งที่หลาย ๆ คนลืมก็คือ ไม่ได้บันทึกเก็บไว้ใน Contacts นั่นเอง เพราะเข้าใจว่า Outlook มันจำให้แล้ว ทีนี้หากฟอร์แมตเครื่องก็จะหาย หากไม่แบ็คอัพไว้ 

การแบ็คอัพรายชื่ออีเมลนั้นสามารถเข้าไปแบ็คอัพได้ที่ตำแหน่งดังนี้
C:\Users\win7\AppData\Roaming\Microsoft\Outlook
โดยที่ win7 คื่อชื่อ user account ที่ใช้งานของท่านบนวินโดว์ครับ


2. ไปที่ Tool > Account Settings... 




3. ที่หน้าต่าง Account Settings จะพบรายบัญชีรายชื่ออีเมลที่ตั้งค่าไว้ ให้คลิกแท็บ Data Files 


4. จะเห็นว่าในตัวอย่างนี้ Profile name เป็นชื่อ Outlook ซึ่งใน Outlook เองอาจจะตั้งค่าไว้หลาย ๆ บัญชีอีเมลก็เป็นได้ ให้คลิกOpen Folder...


5.  จะเป็นการเปิดไปยังโฟลเดอร์ที่เก็บอีเมลให้อัตโนมัติ แต่ยังไม่ใช่ตรงนี้นะครับ เราจะใช้ประโยชน์จากตรงนี้กัน

หรือจะเข้าไปตรง ๆ ด้วย Explorer  ที่ตำแหน่ง C:\Users\win7\AppData\Roaming\Microsoft\Outlook ก็ได้


6. คลิกตำแหน่งว่าง ๆ หลัง Outlook ในช่อง address 


7. สังเกตุว่ามันแสดง Address ไล่ตั้งแต่ต้นให้เห็น ทีนี้เราจะเข้าไปแค่ C:\Users\win7\AppData\ 


8. ให้ลบตั้งแต่ Local\Microsoft\Outlook ส่วนที่ไม่ต้องการออกไป โดยการคลิกที่ตำแหน่งสุดท้ายหลัง Outlook อีกครั้งแล้วลบออกไปเรื่อย ๆ หรือคลิกเมาส์ลากคลุมในส่วนที่ต้องการลบแล้ว delete ไปก็ได้


9. ก็จะเหลือแค่ C:\User\win7\AppData\ ประมาณนี้ แล้วกด Enter ไป


10. เปิดโฟลเดอร์ Roaming 


11. เปิดโฟลเดอร์ Microsoft 


12. เปิดโฟลเดอร์ Outlook


13. จะพบไฟล์ Outlook.NK2 นั่นแหละที่เราต้องการเก็บไว้


14. ที่เหลือก็คัดลอกไปเก็บไว้ที่อื่น ก็เรียบร้อยแล้ว


15. จะได้ไฟล์ Outlook.NK2 รายชื่ออีเมล ตัวอย่างนี้ผมมี 2 Profile ก็เลยเอามาทั้ง 2 


16. จะดูอย่างไรว่าในเครื่องเรามีกี่ Profile ก็ตรง Mail ใน Control panel จะบอกอยู่ว่าเราได้สร้าง Profile ไว้ที่ Profile โดยค่าเริ่มต้นมันจะสร้างให้ชื่อ Outlook มาให้

จะให้ง่ายกว่านี้อีก ท่านก็ก็อปปี้ Address นี้ไปใช้ได้เลยก็ได้ เพียงแค่เปลี่ยนชื่อ User account ให้เป็นเครื่องของท่านก็น่าจะได้แล้ว ไม่ต้องทำหลายขั้นตอนให้ยุ่งยาก
C:\Users\win7\AppData\Roaming\Microsoft\Outlook
เปลี่ยนจาก win7 เป็นชื่อ user account ในวินโดว์ของท่านแทน
ไหน ๆ ก็ไหน ๆ หากยังนึกไม่ออกไว่า user account ดูตรงไหนก็ตามรูปนี้เลย

หวังว่าคงจะเป็นแนวทางที่มีประโยชน์ในการแบ็คอัพรายชื่ออีเมลที่ต้องการนะครับ 
เคดิต: http://www.mydegage.com/

วันจันทร์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2557

เทคนิควิธีค้นหาข้อมูลบน Windows 7 อย่างมือโปร

เทคนิคที่ 1 ค้นหาแบบ Wildcards เช่น ถ้าต้องการค้นหาไฟล์ที่มีชื่อ คำหรือข้อความใดๆก็ตาม ที่มีนามสกุล .mp3 ก็สามารถใช้รูปแบบ “*.mp3 keyword” เช่น “*.mp3 bon jo” ดังรูปตัวอย่าง
wildcards search windows 7
เทคนิคที่ 2 ค้นหาด้วยตัวกรอง kind: วิธีนี้ช่วยให้เราสามารถกรองผลลัพธ์ที่ต้องการค้นหาตามประเภทของไฟล์ ซึ่งจะทำให้ได้ข้อมูลรวดเร็วยิ่งขึ้น ช่วยให้วินโดวส์ไม่ต้องค้นหาจากไฟล์ โฟลเดอร์ทั้งหมด โดยให้พิมพ์คำว่า “kind:” ที่ช่องค้นหา จากนั้นวินโดวส์ ก็จะแสดง ดังรูปตัวอย่าง
kind filter
จากนั้นก็คลิกเลือกชนิดหรือประเภทของไฟล์ที่ต้องการค้นหา แล้วก็คีย์เวิร์ดที่ต้องการต่อท้าย เช่น ต้องการค้นหาเพลงของ หิน เหล็ก ไฟ ก็จะพิมพ์ว่า “kind:=music หิน เหล็ก ไฟ” เป็นต้น
เทคนิคที่ 3 ค้นหาด้วยตัวกรอง Date modified: วิธีนี้ช่วยให้เราสามารถกรองผลลัพธ์ที่ต้องการค้นหาตามวันที่แก้ไขล่าสุดของไฟล์ ซึ่งจะทำให้ได้ข้อมูลรวดเร็วยิ่งขึ้น ช่วยให้วินโดวส์ไม่ต้องค้นหาจากไฟล์ โฟลเดอร์ทั้งหมด โดยให้พิมพ์คำว่า “datemodified:” ที่ช่องค้นหา จากนั้นวินโดวส์ ก็จะแสดง ดังรูปตัวอย่าง
date modified filter
จากนั้นก็คลิกวันที่ทำการแก้ไขล่าสุดของไฟล์ที่ต้องการค้นหา แล้วก็คีย์เวิร์ดที่ต้องการต่อท้าย เช่น ต้องการค้นหาไฟล์ที่ถูกแก้ไขเมื่อวันที่ 12 เดือน 5 ค.ศ. 2010 ก็จะพิมพ์ว่า “datemodified:‎5/‎12/‎2010″ เป็นต้น ทั้งนั้นทังนี้ ขึ้นอยู่กับรูปแบบการเซ็ตวันที่ในเครื่องวินโดวส์ของคุณ
เทคนิคที่ 4 ค้นหาด้วยตัวกรอง size: วิธีนี้ช่วยให้เราสามารถกรองผลลัพธ์ที่ต้องการค้นหาตามขนาดของไฟล์ ซึ่งจะทำให้ได้ข้อมูลรวดเร็วยิ่งขึ้น ช่วยให้วินโดวส์ไม่ต้องค้นหาจากไฟล์ โฟลเดอร์ทั้งหมด โดยให้พิมพ์คำว่า “size:” ที่ช่องค้นหา จากนั้นวินโดวส์ ก็จะแสดง ดังรูปตัวอย่าง
size filter
จากนั้นก็คลิกตามลิสต์ของขนาดไฟล์ที่ต้องการค้นหา แล้วก็คีย์เวิร์ดที่ต้องการต่อท้าย เช่น ต้องการค้นหาไฟล์ที่มีขนาดตั้งแต่ 10 – 100 KB ก็จะพิมพ์ว่า “size:small” เป็นต้น
เทคนิคที่ 5 ค้นหาโปรแกรมที่ต้องการเปิด: วิธีนี้ช่วยให้เราสามารถค้นหาโปรแกรม ที่เราต้องการเปิดรันได้อย่างรวดเร็ว ง่ายดาย โดยไม่ต้องไปคลิก Browse หรือ เปิดเมนู All Program  เช่น ถ้าต้องการเปิดโปรแกรม Windows live messenger ก็ให้คลิกที่ปุ่ม Start > พิมพ์คำหรือคีย์เวิร์ดที่ต้องการ ในช่อง Search programs and files  ในที่นี้ผมค้นหาด้วยคำว่า “live” ดังรูปตัวอย่าง
search program
เท่านี้ก็สามารถเปิดโปรแกรมที่เราต้องการ หรือค้นหาไฟล์อื่นๆได้แล้วหล่ะครับ ลองนำเทคนิควิธีค้นหาข้อมูลบน Windows 7 อย่างมือโปร ไปใช้กันดูนะครับ
เคดิต:http://webmonster.sapaan.net/

วันพุธที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2557

การลง windows7 แบบไม่ต้องให้มี Partition100Mb

ขั้นตอนการลบไดร์ฟ 100 MB System Reserved Partition เมื่อติดตั้ง Windows 7

1.ขณะติดตั้ง Windows 7 (โดยใช้แผ่น) ให้กดปุ่ม Shift + F10 ที่หน้าติดตั้งหน้าแรก
(หน้าที่ให้เลือกภาษา เลือกคีย์บอร์ด) จะมีหน้า command promt ขึ้นมา
2.พิมพ์คำสั่ง diskpart เพื่อเรียกใช้ชุดจัดการพาร์ติชั่นของ Windows 7

diskpart

3.จากนั้นพิมพ์คำสั่งดังต่อไปนี้

list disk (จะแสดง ID ของฮาร์ดดิสก์ทั้งหมดภายในเครื่อง เรียงลำดับจาก 0
โดยฮาร์ดดิสก์มาตรฐานที่อยู่ในเครื่องทั่วไปคือ 0)
select disk 0 (เรียกฮาร์ดดิสก์ไอดี 0 (ศูนย์) ขึ้นมาเพื่อเตรียมทำงาน)
clean (ลบค่าต่างๆ)
create partition primary size=50000
(สร้างไดร์ฟขึ้นมาเพื่อทำเป็นไดร์ฟสำหรับติดตั้ง Windows 7 ขนาด 50GB (หน่วยเป็น MB)
ใครมากน้อยกว่านี้ก็คำนวณเอาเอง
select partition 1 (เลือกพาร์ติชั่น 1 ตามที่ได้แบ่งไว้ตามคำสั่งด้านบน)
active (สั่งให้พาร์ติชั่น 1 active สำหรับการบู๊ตระบบปฏิบัติการ)
format fs=ntfs quick (ฟอร์แมตแบบเร็ว โดยรูปแบบดิสก์แบบ ntfs)
exit (ออกจาก diskpart)
exit (อีกครั้งเพื่อออกจาก command promt)

4.จากนั้นก็ทำการติดตั้ง Windows 7 ตามปกติ ขณะเลือกไดร์ฟ ก็ให้เลือกเป็นไดร์ฟแรก (ตามที่แบ่งไว้) เรียบร้อย
อนุญาตให้สมาชิกขอบคุณกระทู้ของคุณ:MangSabb
มารเหนือเทพworawajกฤษหมอน, krooboonsong, kveeraVIOSNunfather™essoping-pongใข่ลุก2Art_$er-nui101
สำหรับกระทู้นี้, 13 สมาชิก ได้ขอบคุณ!

วันพุธที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2557

วิธีการ Converting MBR Partition ไปเป็น GPT Partition โดยใช้คำสั่ง Diskpart ผ่านทางCommand Line

1.ให้เราทำการคลิกที่ปุ่ม Start แล้วไปในช่องค้นหาแล้วพิมพ์คำว่า cmd ตามภาพข้างล่าง แล้วทำการคลิกขวาที่ cmd.exe แล้วทำการคลิก Run as administrator
รูปภาพ

2.จากนั้นมันจะเข้ามาสู่หน้าต่าง Microsoft Windows [Version 6.1.7600] หน้าต่าง Command Line นั้นเอง
รูปภาพ
3.จากนั้นพิมพ์คำสั่งว่า Diskpart
รูปภาพ
4.จากนั้นมันจะเข้ามาสู่โปรแกรม Microsoft DiskPart version 6.1.7600 นะครับ
รูปภาพ
5.จากนั้นเราทำการพิมพ์คำว่า list disk เพื่อแสดงผลว่ามันมี disk อะไรอยู่บ้างนะครับ
รูปภาพ
6.หลังจากเราทำการพิมพ์คำสั่ง list disk ภาพข้างล่างคือผลลัพธ์ของการพิมพ์คำสั่ง
รูปภาพ
7.จากนั้นเราพิมพ์คำสั่ง select disk 2 เพื่อทำการเลือก disk  2
รูปภาพ

8.ผลลัพธ์หลังจากการพิมพ์ select disk 2
รูปภาพ

9.จากนั้นเราจะเริ่มทำการ convert ไปยัง gpt โดยการพิมพ์คำสั่ง convert gpt
รูปภาพ
10.ผลลัพธ์หลังจากการพิมพ์คำสั่ง convert gpt
รูปภาพ
11.เมื่อเสร็จแล้วเราก็พิมพ์คำสั่ง exit เพื่อออกจากโปรแกรม diskpart 
รูปภาพ

จบแล้ว